ศูนย์ข้อมูลเครดิตนี้มีหน้าที่เก็บข้อมูลการชำระหนี้ของลูกหนี้ แต่ที่นี้เรามักจะพบว่ามีคำถามตามมาเกี่ยวกับข้อมูลการชำระหนี้ที่ เครดิตบูโร เก็บไว้ คือ “การปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน” โดยตีความเอาว่าเกิดจากการ “ติด เครดิตบูโร ” หรือ “ติดแบล็คลิสต์” ซึ่งหลายคนก็จะมีคำถามต่อมาว่า มันคืออะไร? และใครเป็นคนทำบัญชีแบล็คลิสต์นั้นขึ้นมา?
เครดิตบูโร คืออะไร
การที่สถาบันการเงินจะไม่อนุมัติสินเชื่อมีเหตุผลอยู่ไม่กี่ข้อ เช่น
- คุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์
- มีภาระหนี้ที่เกินตัว
- มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้บ่อยครั้ง แสดงถึงความไม่มีวินัยทางการเงิน และแนวโน้มในการเบี้ยวหนี้
ข้อมูลการชำระหนี้พวกนี้ จะอ้างอิงจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (National Credit Bureau) หรือ NCB หลายคนจึงเรียกการไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อด้วยเหตุผลดังกล่าวว่า เป็น “การติดเครดิตบูโร” หรือหนักกว่านั้นหลายคนคิดว่าตัวเองถูกขึ้นบัญชีดำ หรือ “ติดแบล็คลิสต์” ซึ่งทำให้เชื่อมโยงไปอีกว่า ศูนย์ NCB มีการจัดทำบัญชีคนที่มีประวัติการชำระหนี้ล่าช้าไว้รวมกัน เพื่อที่สถาบันการเงินจะเข้ามาตรวจสอบเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
แต่นี่เป็นความเข้าใจที่ผิด ถ้าอ่านวิธีการทำงานของศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติแล้ว จะพบว่าหน้าที่ของศูนย์ฯ คือ การรวบรวมประวัติการชำระหนี้จากสมาชิก และจัดทำรายงานของข้อมูลที่ได้มาเท่านั้น แต่การพิจารณาสินเชื่อ เป็นเรื่องของธนาคาร และสถาบันการเงินที่มีหลักเกณฑ์พิจารณาเอง ศูนย์ข้อมูลเครดิตไม่มีหน้าที่จัดทำรายงานเฉพาะบุคคลที่มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดีแต่อย่างใด
การติดเครดิตบูโร หรือ การติดแบล็คลิสต์ จึงเป็นเรื่องที่คนคิด และเข้าใจกันเอาเอง
ติด เครดิตบูโร ไม่มีจริง แล้วทำไมจึงขอกู้ไม่ผ่าน
ตามที่บอกไปข้างต้นว่าเหตุผลในการปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินนั้นมีอยู่ไม่กี่อย่าง ถ้าไม่ใช่เหตุผลด้านคุณสมบัติก็เป็นภาระหนี้ หรือ วินัยทางการเงิน ซึ่งธนาคารที่ปฏิเสธการให้สินเชื่อต้องมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร
แต่ทั้งนี้ ถ้าเหตุผลในการไม่อนุมัติ คือ การชำระหนี้ล่าช้าโดยอ้างอิงข้อมูลจากรายงานของศูนย์เครดิตบูโร หากผู้ขอสินเชื่อเกิดความข้องใจในข้อมูล ก็สามารถนำจดหมายดังกล่าวยื่นขอตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ย้อนหลังที่ศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติได้ด้วยตัวเองเพื่อดูว่าประวัติที่แสดงขึ้นมานั้นถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องท่านสามารถยื่นคำร้องขอแก้ไขได้ต่อไป
วิธียื่นก็ทำได้ไม่ยาก โดยนำหนังสือชี้แจงดังกล่าว พร้อมกับบัตรประชาชนตัวจริง มายื่นขอตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตบูโรได้ฟรีที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
ติด เครดิตบูโร แก้ไขได้อย่างไร
หากคุณมีประวัติผิดนัดชำระหนี้กับองค์กรที่เป็นสมาชิกข้อมูลศูนย์ข้อมูลเครดิต ข้อมูลจะไปปรากฏในรายงานข้อมูลเครดิต แต่ทั้งนี้ ศูนย์ฯ จะเก็บข้อมูลย้อนหลังไม่เกิน 3 ปีตามที่กฎหมายกำหนด หากชำระหนี้เก่าที่ค้างครบแล้วหรือปิดหนี้แล้ว และไม่ได้มีการค้างชำระอีก ผ่านไป 3 ปี (36 เดือน) ประวัติค้างชำระก็จะหายไป
กรณีที่ยังมีหนี้ค้างอยู่ และต้องการทำเรื่องกู้-ขอสินเชื่อ สถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อจะตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในช่วงระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หมายความว่า ข้อมูลก่อนหน้าที่ไม่รวมอยู่ในช่วงการตรวจสอบจะไ่ม่ถูกพิจารณา
สมมุติคุณต้องการทำสินเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใหญ่แล้วสถาบันการเงินจะเช็คข้อมูลย้อนหลังประมาณ 6 เดือน หากก่อนหน้านี้คุณมีประวัติเคยผิดนัดชำระหนี้ แต่ข้อมูลนั้นไม่ได้รวมอยู่ในช่วง 6 เดือนที่ธนาคารใช้พิจารณา โอกาสที่คุณจะได้รับการอนุมัติสินเชื่อก็เป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ในช่วงที่ธนาคารพิจารณาคุณก็ควรชำระหนี้สม่ำเสมอด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้อนุมัติสินเชื่อ
วิธีเหล่านี้คือสิ่งที่ง่ายที่สุดที่ทำได้เพื่อให้ประวัติการชำระหนี้ของคุณกลับมาดี หรือ ที่หลายคนเรียกว่า แก้การติดเครดิตบูโร
วิธีวางแผนชำระหนี้
วางแผนชำระหนี้ กรณีที่ยังมีสภาพคล่อง
- สรุปรายการหนี้ที่ยังคงค้างชำระ เพื่อตั้งงบประมาณรายรับรายจ่ายได้อย่างเหมาะสม โดยสรุปว่า เป็นหนี้กับสถาบันการเงินใด จำนวนเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไร ต้องผ่อนชำระต่อเดือนเท่าไร
- ผ่อนชำระหนี้ให้ตรงเวลาทุกงวด เพราะข้อมูลการชำระหนี้ล่าช้า คือสิ่งที่กลายเป็นคำพูดติดปากว่า ติดเครดิตบูโรของใครหลาย ๆ คน ควรเก็บหลักฐานการชำระหนี้ทุกอย่างไว้ เพราะสามารถนำ statement ที่ชำระตรงเวลานี้ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู เมื่อถึงเวลาขอสินเชื่อใหม่
- นำเงินก้อนมาปิดชำระหนี้สินเช่น เงินโบนัส คอมมิชชั่น หรือรายได้จากทรัพย์สินที่มี
- รีไฟแนนซ์ จ่ายหนี้เดิมให้หมดโดยขอสินเชื่อใหม่มาโปะ โดยการรีไฟแนนซ์ที่คุ้มค่า คือ รีไฟแนนซ์แล้วได้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า การรีไฟแนนซ์ช่วยแก้ปัญหาการลืมจ่ายหนี้หลายเจ้าได้อีกด้วย
จัดการหนี้ กรณีรายจ่ายมากกว่ารายรับ
- เจรจากับสถาบันการเงิน ว่าสามารถเพิ่มระยะเวลาการชำระหนี้ได้ไหม หรือ เจรจาขอปรับโครงสร้างการชำระหนี้ แสดงให้สถาบันการเงินเห็นว่า เรามีความตั้งใจจะใช้หนี้ หลายคนกลัวที่จะเจรจา แต่ในความเป็นจริงแล้ว สถาบันการเงินส่วนใหญ่มักไม่อยากให้เกิดหนี้สูญ ฉะนั้น การเจรจาจึงเป็นวิธีที่ไม่น่ากลัวแบบที่หลายคนคิดครับ
- ขาย หรือ ปล่อยเช่าหนี้สินรายการใหญ่ เช่น รถยนต์ บ้าน เป็นต้น เนื่องจากหนี้พวกนี้ เป็นหนี้ก้อนใหญ่ และมักมีเวลาผ่อนชำระยาว ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงด้วย หากคุณมีความจำเป็นจริง ๆ คุณควรพิจารณาเคลียร์หนี้สินส่วนนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณ
- หยุดชำระหนี้ และเริ่มออมเงินครั้งใหญ่ วิธีนี้ให้ใช้เฉพาะตอนที่ถึงทางตันแล้วเท่านั้น คือ รอจนหนี้เป็นหนี้เสีย แล้วเราค่อยติดต่อสถาบันการเงิน และเจรจาลดหนี้ลงให้เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย จากนั้นก็ทำเงินมาค่อย ๆ ชำระคืน
เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ทำได้อย่างไร
โมบายแอป
- แบบส่งรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมล
– ได้ทันที
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร KKP Mobile
– ตรวจข้อมูลเครดิต และเครดิตสกอริ่ง
- Bureau OK (บูโรโอเค) (ลงทะเบียนใช้บริการได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง)
– บริการตรวจข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง
– บริการอื่น ๆ เช่น รายงานแบบสรุป ดูประวัติการตรวจย้อนหลัง เช็กภาระหนี้สินของตนเอง การอ่านรายงาน ข่าวสารข้อมูลเครดิตบูโร
– สอบถามปัญหา ข้อสงสัยเกี่ยวกับเครดิตบูโร
– ภายใน 24 ชม. (*เป็นไปตามเงื่อนไขที่เครดิตบูโรกำหนด)
- ธนาคารกรุงไทย Krungthai NEXT
– ตรวจข้อมูลเครดิต และเครดิตสกอริ่ง
- ธนาคารออมสิน MyMo
– ตรวจข้อมูลเครดิต และเครดิตสกอริ่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง
WAX CPU เกิน 100% แก้ปัญหาได้ง่ายๆด้วย Getwaxcpu.com
Everything You Wanted to Know About mega city’s
Metro city’s should make road with protection In mind
Go For Western Economy With These Pioneering
สามารถติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://www.kempaonline.com/
สนับสนุนโดย ufabet369
ที่มา www.peerpower.co.th